บันทึกการเดินทางโดยการปั่นจักรยานเที่ยวญี่ปุ่น ในคืนที่ 3 ของการเดินทาง
นี่เป็นการบอกเล่าเรื่องราว ที่แทบจะไม่ได้เกี่ยวกับ จักรยานเลย
แต่เราจะพาท่านไปเที่ยว ชมมุมมองชีวิตที่แตกต่างยามค่ำคืนกัน
คืนนี้เราพักกันที่ Shinjuku Prince Hotel ในย่าย Shinjuku
เกร็ดความรู้
เขตShinjuku เป็น 1 ใน 23 เขตการปกครองพิเศษในมหานครโตเกียว เป็นศูนย์การบริหาร
และ จัดการสถานีรถไฟยุ่งที่สุดในโลก ผู้คนกว่า 3,000,000 คน/วัน ยืนเบียดเสียดกันขึ้นรถไฟฟ้า
โดยเฉพาะช่วง ตอนเช้า 7:30-9:30 และตอนเย็น 17:00-18:00
(ช่วงเวลาต้องห้ามของนักท่องเที่ยวเลยทีเดียว เพราะคนจะเยอะมากๆ)Shinjuku ยังเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของโตเกียว ไม่ว่าจะเป็น เสื่อผ้า
เครื่องแต่งกาย สินค้าแบรนด์เนม เครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้ามือสอง ร้านขายยา
และยังรวมไปถึงแหล่งบันเทิงยามราตรี และร้านอาหาร อีกด้วยสถานที่น่าสนใจในย่านนี้ ก็ได้แก่
Tokyo Metropolitan Government (อาคารที่ว่าการมหานครโตเกียว)
เป็นที่ตั้งของ ที่ทำการรัฐบาลกรุงโตเกียว และเป็นแหล่งช็อปปิ้งที่มีร้านค้าต่าง ๆ มากมาย
Shinjuku Gyoen National Garden สวนสาธารนะที่มีอายุเกือบ 100 ปี
มีต้นซากุระมากถึง 1,500 ต้น
Piss Alley หรือ Shobem Yokocho ตรอกที่มี ร้านอาหารเล็กๆแบบนั่งเป็นเคาน์เตอร์
Kabukicho ย่านบันเทิงโลกีย์ของโตเกียว คลับ, บาร์, ร้านปาจิงโกะ
Bic Camera ร้านขายกล้องดิจิตอล และ เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ มากมาย
Yodobashi อยู่ตรงข้ามกับ Bic Camera ขายเครื่องไฟฟ้า คอมพิวเตอร์
Mutsumoto Kiyoshi ร้านขายเครื่องสำอาง
Isetan ห้างเก่าแก่ที่อยู่มานาน เป็นผู้นำของทุก ๆ ห้าง มี 2 ตึกใหญ่ ขายสินค้าทั่วไป
Marui สังเกตุง่ายๆจะ เป็นตึกที่แปะโลโก้ 0101 เป็นห้างขายเสื้อผ้าแฟชั่นวัยรุ่น, ชุดคอสเพลย์
Lumine ห้างแฟชั่นมีทั้งหมด 3 ตึก คือ Lumine1, Lumine2, Lumine Est
ขายเสื้อผ้า, กระเป๋า, รองเท้า
Takashimaya อยู่ที่ตึก Time Square มี14ชั้น ขายสินค้าแบรนหรู Louis Vuitton,
Prada, Gucci ฯลฯ
Kinokuniya เป็นร้านหนังสือที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และ สาขาชินจูกุเป็นสำนักงานใหญ่ขอบคุณ ข้อมูลอ้างอิงจาก http://www.ilovetogo.com/
จากข้อมูลที่เรามี ไม่แปลกใจเลยทำไมที่นี่คนเยอะมากๆ โดยเฉพาะสาวๆ
เพราะ Shinjuku ถือเป็นแหล่งช๊อปปิ้งของสาวๆนี่เอง
@KOMASAN (เพื่อนชาวญี่ปุ่นของ @JetAsiaStaff)
พอเค้ารู้ว่าพวกเรา จะมาที่tokyo ก็เลยLineมานัด จะมาพาเราไปทานข้าวเย็น (ใจดีจัง)
เมื่อเรา check in โรงแรมแล้ว เรารีบเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วกลับลงมาที่ lobby
เพราะ @KOMASAN มารอเราตั้งแต่เย็นแล้ว
@KOMASAN นั้นfriendly มาก เค้าเป็น chef ในร้านอาหาร
วันนี้เค้าลาหยุดงาน เพื่อมาขับรถพาพวกเราไปทานข้าวเย็น ใจดีมากๆเลย
เสียดายskill ภาษาอังกฤษผมแย่มาก (ผมฟังออกนะ ว่าเค้าพูดอะไร แต่ตอบไม่ได้ T_T )
จึงปล่อยให้ @JetAsiaStaff เมาท์มอยกับ @KOMASAN ไปตลอดทาง
ที่จอดจักรยานใต้คอนโด ดูดีทีเดียว
@KOMASAN นั้นชอบเล่น Airsoftgun (BBGun) เหมือนกับผม
ด้วยความใจดี ก่อนทานข้าว จึงพาเราไปแวะร้านขาย อุปกรณ์ Airsoftgun ประมาณ 2-3ร้าน
ของแต่งปืน อะไหล่เยอะมาก แต่ผมก็ไม่ได้ซื้ออะไรกลับมา เพราะไม่รู้จะขนกลับมายังไง
ลานจอดรถแบบหยอดเหรียญ ที่ญี่ปุ่นนี่อะไรๆก็ดูจะเป็นอัตโนมัติไปซะหมด แทบไม่ต้องมีพนักงานเลย
เพลิดเพลินกับการชมร้านปืนกันแล้ว
@KOMASAN ถามว่าอยากกินอะไร ?
ผมก็เลยบอกไปว่า อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ข้าวกล่องเซเว่น ! (2วันมาแล้ว ที่กินแต่ข้าวกล่องเซเว่น!)
@KOMASAN บอก “เดี๋ยวไปทานอาหารจีนกัน ร้านนี้มีเพื่อนเค้าเป็นเชฟอยู่”
ระหว่างเดินทาง @KOMASAN ผ่านดงตึกสำนักงาน เค้าชี้ให้เราดู ตึกสำนักงานต่างๆ
ทุกตึกยังคงเปิดไฟสว่าง มีคนทำงานอยู่ (ตอนนี้เวลาประมาณ 20:30)
บรรดามนุษย์เงินเดือน salary man ยังคงขยันทำงาน
เพื่อพลักดันประเทศนี้ให้ไปข้างหน้าตลอดเวลา
ในใจผมรู้สึกชื่นชม บรรดาsalaryman เหล่านี้นะ เพราะพวกเค้าทุ่มเทกับงานมากๆ
ผมสังเกตุคนญี่ปุนอย่างนึงนะว่า เวลาเค้าทำอะไรเค้าจะทำมันอย่างเต็มที่
อย่างค่ายทหาร ที่ผ่านมาเมื่อเช้า ผมเห็นทหารเค้าฝึกกันอย่างเข้มแข็งตลอดเวลา
(ถ้าเป็นเมืองไทย เราอาจจะเห็นทหารเกณ์นั่งตัดหญ้าอยู่…แทนที่จะกำลังฝึกยิงปืน)
@KOMASAN บอกว่า “พวกsalaryman นั้นบ้างาน ถ้าเป็นเค้า เค้าจะไม่ทำแบบนั้นเด็ดขาด
การใช้ชีวิตในtokyo นั้น ไม่ง่ายเลย คุณต้องทำงานอย่างหนักเพื่อให้พอกับค่าครองชีพที่นี่
อย่างตัวเค้าเองก็มีอาชีพเสริม 2-3 อย่างเพื่อให้พอกับค่าใช้จ่าย”
(ขนาดคนญี่ปุ่นเอง ยังรู้สึกว่าใช้ชีวิตลำบาก แต่ทำไมคนไทยยังหนีเข้าเมืองมาทำงานที่นี่กัน???)
เรามาถึง china town หาที่จอดรถแล้ว เดินไปหาของกินกัน
ผมก็พึ่งรู้นี่แหละว่าใน tokyo มี china town ด้วย
แต่ อนิจจา…
วันนี้ ร้านเพื่อนของ@KOMASAN ปิด! เลยต้องเดินไปหาร้านใหม่ทานกัน
@KOMASAN พาเดินไปร้านโปรดของเค้าอีกร้านนึง แต่…มันก็ปิด!
เรากลับไปเอารถ ที่จอดไว้
ลาดจอดรถที่นี่ไฮเทคมากๆ แค่ขับเข้าไปจอด แว๊ปเดียว มันจะยกรถขึ้นไปเก็บทันที
ตอนจะรับรถก็แค่ กดเบอร์ แล้วหยอดเหรียญ รถก็จะถูกยกลงมาให้
(เหมือนที่เคยดูใน tokyo diff เลยไฮเทคโคตรๆ)
@KOMASAN ขับรถพาเราไปอีกร้านนึงที่เค้าแนะนำ แต่…มันก็ปิด!
สงสัยวันนี้ จะไม่ใช่วันของเราจริงๆ เมื่อเช้าไปถึงฟูจิแต่ก็ถ่ายรูปไม่ได้
ตกเย็นเค้าพามาร้านแนะนำ 3-4 ร้านก็ปิดกันหมด มันวันอะไรฟระเนี่ย!
ดูเหมือนว่า @KOMASAN จะเสียใจมากที่พาเรามาทานร้านอาหารแนะนำไม่ได้
(พวกเรารู้สึกเกรงใจมากๆ) แต่เค้าก็ยังไม่ลดความพยายาม
เค้าบอกพร้อมกับขับรถพาไปอีกที่นึง “เดี๋ยวไปกิน เนื้อย่างเกาหลีกัน ร้านนี้ไม่ปิดชัวร์ ”
พอเรานั่งบนรถยนต์ ถึงได้รู้สึกว่า ไฟแดงใน tokyo นี่มันเยอะจริงๆ
แล้วก็ขยันแดง บ่อยมาก เดี๋ยวจอดๆ ตลอดเวลา ถ้าผมขับเองคงหงุดหงิดไปแล้ว
เพราะไฟแดงเยอะ เวลาเราเดินถนน เราจึงรู้สึกว่าเดินสะดวก
(ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองรึป่าว ว่าที่นี่ให้ความสำคัญกับคนเดินเท้ามากๆ มากกว่ารถยนต์ซะอีก)
เราจอดติดไฟแดง อยู่หน้าสถาณีดับเพลิง ตอนนี้เวลาประมาณ 21:00 กว่าๆ
ผมยังเห็นพนักงานดับเพลิง ซ้อมโรยตัวกันอยู่
ผมถาม @KOMASAN ว่า “นี่พนักงานดับเพลิง เค้าซ้อมตามเวลางานปกติเค้ารึป่าว”
@KOMASAN บอกว่า “ไม่ใช่หรอก 21:00 นี่นอกเวลางานแล้ว พวกเค้าซ้อมนอกเวลางาน
เพื่อให้เชี่ยวชาญเวลาทำงานจริง ช่วงกลางวันงานจะยุ่งมาก เลยต้องมาซ้อมกลางคืน !”
เห็นแบบนี้ ผมไม่แปลกใจเลย ทำไมญี่ปุ่นประเทศเล็กๆ ถึงได้พัฒนาอยู่ตลอดเวลา
นั่นเพราะคนของเค้ามีคุณภาพมากๆ
ขับมาซักพัก ก็ถึงแล้ว ร้านเนื้อย่างเกาหลีที่ @KOMASAN แนะนำว่าเด็ด
และที่สำคัญสุดคือ… ร้านยังไม่ปิด เย้ๆ
เนื้ออะไรบ้างก็ไม่รู้มากมาย @KOMASAN สั่งมาให้เราทาน
พร้อมอธิบายว่า นี่เนื้อแก้มวัว นี่เนื้อน่องวัว นี่เนื้อ…ผมจำได้ไม่หมด รู้แต่ว่าเยอะมาก
สมกับที่เป็นเชฟจริงๆ
นอกจากจะสั่งให้แล้ว ยังปิ้งให้อีกด้วย ชนิดที่ว่าแขกอย่างพวกเราไม่ต้องปิ้งกันเองเลย
น่ารักจริงๆ และด้วยความที่เป็นเชฟ เนื้อย่างเกาหลีจากมือเชฟนั้น อร่อยโคตรๆ
ปิ้งเองคงไม่อร่อยหวานนุ่ม ขนาดนี้ ฟินเลย \(^o^)/
ตบท้ายด้วยซุป อะไรซักอย่าง @KOMASAN แนะนำมา สุดยอดอร่อยมากๆ
อิ่มแปร่กันเลยทีเดียว
มื้อนี้ประมาณ 13,000yen (4200บ.) @KOMASAN ยังแย่งเราจ่ายอีก O_o
บอกว่าเราเป็นแขกของเค้าห้ามจ่าย มื้อนี้เค้าเลี้ยงเอง (พวกเราเกรงใจมากๆเลย)
@JetAsiaStaff บอก@KOMASAN ว่าถ้ามาเมืองไทย อย่าลืมโทรหาเค้า
จะพาไปเลี้ยงตอบแทนให้สมกับที่เค้าดูแลพวกเราเลย
ขากลับแวะจอดรถ กินกาแฟกันก่อน @KOMASAN ก็ยังไม่วายซื้อกาแฟมาเลี้ยงผมอีก
บอกว่า “Kuni ลองชิมกาแฟสดดูซิ อันนี้อร่อยนะ เค้าเลี้ยง”
จะใจดีเกินไปแล้ววว แล้วผมจะเลี้ยงตอบแทนคืนยังไงละเนี่ย
@KOMASAN เรียกชื่อผมตาม @JetAsiaStaff ที่เรียกผมว่า “คุณอิศ”
แต่เสียงมันเพี้ยน ตอนนี้ผมเลยมีชื่อญี่ปุ่นว่า Kuni แปลกดีแต่ผมก็ชอบนะ (^o^)
เสียดายที่ผม พูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ ไม่งั้นคงได้เรียนรู้อะไรจากเค้าได้อีกเยอะ
@KOMASAN ขับรถพาเรากลับมาที่โรงแรม
ผมว่าวันนี้ เค้าขับรถไม่ต่ำกว่า 40-50km เพื่อพาเราตะเวณหาของกิน
ค่าน้ำมันคงหลายพันบาทเลยทีเดียว
เค้าใจดีกับพวกเรามากๆ พวกเราขอบคุณเค้าจริงๆจากใจ
The happy time in my life.
Thanks for everything.
If you come to thailand please tell me. I will take care of you.
Thank you very very very much KOMASAN.
หวังว่าผมจะสะกดภาษาอังกฤษถูกนะ (>,<)
ผมเชื่อว่า ทุกๆครั้งที่มีการพบกัน ของคน 2คน
มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่มันคือโชคชะตา
@JetAsiaStaff ดูท่าทางแล้วง่วงมาก แต่ผมยังไม่ง่วง
กลางดึกในย่าน Shinjuku แบบนี้ ไม่เดินเที่ยวซะหน่อย ก็เสียดายโอกาศแย่!
ผมเลยปล่อยให้ @JetAsiaStaff ไปนอนก่อน แล้วผมออกเดินเล่นตระเวณราตรี
หลายๆร้านเริ่มปิดกันแล้ว เพราะตอนนี้เวลาเที่ยงคืนกว่าๆ
กองขยะ ถึงหลายๆที่จะดูสะอาด แต่บางที เค้าก็ทิ้งขยะไม่เลือกที่เหมือนกันนะ!
ร้านเสริมสวยๆ สาวๆน่ารักๆเพียบ
ดึกๆก็เหมือนเมืองไทย ที่ถนนเต็มไปด้วยแทกซี่
สาวๆเมาอวก กันข้างถนน หน้าตาดีซะด้วยนะ เห็นหลายคนเลยละ
บางคนก็เมา กระปงกระโปงไม่สนใจ ถลกขึ้นมาจนเห็น กกน.
ถ้าเป็นเมืองไทย คงกลับไม่ถึงบ้านแน่ๆ
(เคยดูในหนังว่ามีสาวๆเมาแบบนี้ ก็ไม่คิดว่าจะได้มาเห็นของจริงกับตา)
คนเป็นลมกลางถนน ไม่ถึง 5นาที เจ้าหน้าที่กู้ภัยมาเร็วมาก
มาพร้อมรถดับเพลิง และพยาบาลอีกคัน
ขอบอกว่าการสะพายกล้องเดิน กลางคืนในย่าน Shinjuku เป็นอะไรที่คิดผิดมากๆ
เพราะกลางคืน จะมีสาวบริการ ยืนข้างถนนกันเพียบ!
(ส่วนใหญ่หน้าตาดี ยังกะพริตตี้เมืองไทย แค่เดินชมก็เคลิ้มแล้ว)
สาวๆเหล่านี้พอเห็นคุณเป็นนักท่องเที่ยว พวกเธอจะเข้ามาเกาะแขนทันที
แล้วชวนไปทำ…อย่างว่า ! สาวๆเหล่านี้ตื้อมากๆ กว่าจะหลุดมาได้เล่นเอาเหนื่อย
ค่าบริการที่พวกเธอบอกผมคือ ประมาณ 30,000yen / 1.30ชม.
ไม่ใช่แค่สาวๆ เท่านั้นยังมีนิโกรตัวดำ เอาแคตาล็อกสาวๆรัสเซีย ยุโรปมาให้เลือกด้้วยนะ
รีบsay no no ๆ กันแทบไม่ทัน
ผู้ชายญี่ปุ่นใส่สูท อยู่ดีๆก็เดินถือ แคตาล็อก สาวๆในสังกัดมาให้เลือก พร้อมให้นามบัตร
และโบชัวร์ แถมบอกว่าถ้าไม่อยากเลือกตอนนี้ ก็โทรมาสั่งได้นะ
จะมีสาวๆไปหาที่ห้องเลย O_o
อาชีพสาวขายบริการ เป็นอาชีพที่ถูกกฏหมายในญี่ปุ่น
และย่านที่ขึ้นชื่อเรื่องสาวๆขายบริการ ก็ดันเป็นยานShinjuku ซะด้วยซิ (ซึ่งผมไม่รู้มาก่อน)
เยอะมาก ผมเดินเล่นเข้าไปในซอย กว่าจะหลุดออกมาได้แทบหมดแรง
เก็บกล้องยัดกระเป๋าแทบไม่ทัน ยิ่งรู้ว่าเราเป็นนักท่องเที่ยวยิ่งตื้อ หนัก
โดยเฉพาะถ้าพวกเธอรู้ว่าเราเป็น “ไทจิน” พวกเธอจะตื้อหนักมาก
ดูเหมือนนักท่องเที่ยวชาวไทยจะไปใช้บริการพวกเธอบ่อยนะ พวกเธอถึงชอบมาก
สาวๆในชุดคลุมหนาๆนั่น พอเราเดินผ่านก็จะมาเกาะแขนทันที
พอเราบอก NO NO NO
พวกเธอก็จะหัวเราะแล้วเปิดผ้าคลุม ให้เห็นชุดสยิวกิ้ว
แถมให้เราลองบีบ…เล่นได้ด้วย เลือดกำเดาแทบทะลัก
ถ้าใจไม่แข็งพอนี่คงโดนไปแล้ว มันน่า…มาก
(โชคดีผมเป็นคนรักลูกรักเมีย ท่องไว้ ไม่เอา ไม่เอา ไม่เอา)
อย่ากระนั้นเลย ไม่ไหวแล้ว รีบกลับโรงแรมนอนดีกว่า
ถือเป็นมุมแปลกๆ ใน tokyo ที่ไม่นึกมาก่อนว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้
การเดินเล่นคืนนี้ช่วยให้เห็นอะไรอีกเยอะแยะเลย ประเมิณค่าไม่ได้ 555
เข้าห้องไป @JetAsiaStaff ยังไม่นอน แถมถามผมว่าไปใช้บริการมาป่าว ซะงั้น
นี่รู้แล้ว ไม่บอกกันเลยนะ ถึงว่า…ปล่อยให้ผมไปคนเดียว
ทำไมไม่บอกผมก่อน ผมจะได้หยิบตังส์ลงไปด้วย !
กลายเป็นเรื่องสนุกชวนเฮฮาก่อนนอนกันไป
รีบนอนดีกว่าพรุ่งนี้ เรามีภาระกิจปั่นเที่ยว Tokyo
ปั่นเที่ยวรอบเมือง Tokyo จะสนุกขนาดไหน?
จะมีเรื่อง unseen ให้ได้พบอีกหรือไม่ ?
Tokyo-Narita ระยะทางกว่า 90km พวกเค้าจะปั่นถึงหรือไม่?โปรดรอติดตาม การเดินทางของพวกเค้าในตอนต่อไป…
มหากาฬเรื่องยาวมากกกก เล่าได้จนลูกบวช!![]()
อ่านย้อนหลังได้ที่นี่ครับ
ปั่นจักรยานเที่ยวญี่ปุ่น (บันทึกการเดินทาง วันที่ 1)
ปั่นจักรยานเที่ยวญี่ปุ่น (บันทึกการเดินทาง วันที่ 2)
ปั่นจักรยานเที่ยวญี่ปุ่น (บันทึกการเดินทาง วันที่ 3)
ปั่นจักรยานเที่ยวญี่ปุ่น (บันทึก special night)
ปั่นจักรยานเที่ยวญี่ปุ่น (บันทึกการเดินทาง วันที่ 4)
ปั่นจักรยานเที่ยวญี่ปุ่น (บันทึกการเดินทาง วันที่ 5) วันสุดท้ายของการเดินทาง